Quantcast
Channel: ความหมายคำ คืออะไร
Viewing all articles
Browse latest Browse all 307

Synchronous (ซิงโครนัส) และ Asynchronous (อะซิงโครนัส) คืออะไร

$
0
0

Synchronous และ Asynchronous

      คือ รูปแบบการส่งข้อมูล จะอธิบายถึงความแตกต่าง ดังต่อไปนี้

Synchronous and Asynchronous
Synchronous and Asynchronous

 

Synchronous

     คือ การซิงโครไนซ์บิตและการซิงโครไนซ์บล็อก เมื่อสัญญาณข้อมูลถูกส่งผ่านไปตามสายสัญญาณเข้าสู่ DTE ปลายทาง สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยคือ อุปกรณ์ปลายทางจะต้องสามารถส่งสัญญาณไบนารีหรือ{--mlinkarticle=2220--}บิต{--mlinkarticle--}ซึ่งเป็นสัญญาณพื้นฐานที่สุดให้ได้อย่างถูกต้องตามจังหวะที่ส่งมา การที่อุปกรณ์ปลายทางสามารถรับ-ส่งอุปกรณ์ไบนารีได้ถูกต้องตามจังหวะนี้ เราเรียกว่า การซิงโครไนซ์บิต 

     เมื่ออุปกรณ์ปลายทางสามารถรับ-ส่งบิตต่างๆได้อย่างถูกต้องแล้ว อุปกรณ์ปลายทางก็ยังจำเป็นต้องรู้ว่าสัญญาณที่รับมานั้น สำหรับแต่ละตัวมีการเริ่มต้นและสิ้นสุด เรียกว่า การซิงโครไนซ์บล็อก

     วิธิง่ายๆที่จะทำให้มีการซิงโครไนซ์บิต และการซิงโครไนซ์บล็อกนั้น ทำได้โดยการสงสัญญาณไทม์มิ่งไปยังสายอีกเส้นหนึ่งขนานไปกับสายที่ส่งสัญญาณข้อมูล แต่วิธีนี้จะไม่สามารถทำได้กรณีที่ติดต่อกัน เป็นระยะไกลๆ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก

 

Asynchronous

     โดยทั่วไป Asynchronous เป็นคุณศัพท์อธิบายวัตถุหรือเหตุการณ์ที่ไม่มีพิกัดด้านเวลา ในเทคโนโลยีสารสนเทศ ศัพท์นี้มีการใช้หลายความหมาย

  • ในสัญญาณการสื่อสารภายในเครือข่ายหรือระหว่าง{--mlinkarticle=2221--}เครือข่าย{--mlinkarticle--} สัญญาณ Asynchronous เป็นหนึ่งสัญญาณที่ส่งผ่านตามอัตรานาฬิกาต่างจากอีกสัญญาณหนึ่ง
  • ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการ Asynchronous หมายถึง กระบวนการปฏิบัติงานอย่างอิสระของอีกกระบวนการขณะปฏิบัติการ Synchronous หมายถึง กระบวนการทำงานเฉพาะผลลัพธ์ของอีกกระบวนการที่เสร็จสิ้นหรือหยุดปฏิบัติการ กิจกรรมแบบแผนอาจจะใช้โปรโตคอล synchronous ที่จะส่งไฟล์จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง แต่ละการส่งผ่านได้รับ การตอบสนองได้รับการส่งออกชี้ถึงความสำเร็จหรือต้องส่งใหม่ แต่การส่งผ่านสำเร็จของข้อมูลต้องการตอบสนองไปยังการส่งผ่านก่อนหน้านี้ก่อน อีกเริ่มต้นอีกกระบวนการ

 

การทำงานของ Synchronous และ Asynchronous

     วิธีส่งในทางปฏิบัตินั้น เมื่อแบ่งตามลักษณะการซิงโครไนซ์แล้วแบ่งได้เป็นการส่งแบบซิงโครนัส และการส่งแบบอะซิงโครนัส ซึ่งทั้งสองแบบนี้จะใช้วิธีแยกสัญญาณไทม์มิ่งจากสัญญาณข้อมูลที่รับมา

     การส่งแบบอะซิงโครนัสซึ่งส่วนใหญ่จะใช้กับระบบที่มีการส่งข้อมูลอัตราต่ำนั้น DTE ทางด้านส่งเมื่อต้องการส่งสัญญาณรหัสออกไป ก็จะมีการจัดสัญญาณนั้นให้อยู่ในรูปอนุกรมแล้วเติมบิตเริ่มต้น (Start Bit) ไว้ที่ด้านหน้า และเติมบิตสิ้นสุด (Stop Bit) ไว้ที่ด้านหลัง และส่งออกไปตามจังหวะของสัญญาณนาฬิกาทางด้านส่ง ส่วย DTE ทางปลายทางนั้น เมื่อรับบิตเริ่มต้นได้ก็จะทำการรับสัญญาณข้อมูลที่ส่งตามมา โดยใช้จังหวะของสัญญาณนาฬิกาของสถานีตัวเอง และจะรับสัญญาณจนกว่าจะถึงบิตสิ้นสุดแล้วหยุดรับ ดังนี้นวิธีการนี้ DTE ก็จะทำการซิงโครไนซ์บิตและซิงโครไนซ์บล็อกพร้อมกันไป แต่วิธีนี้จะมีปัญหา เกิดขึ้นขึ้นได้ถ้าสัญญาณที่ส่งมามีความยาวมากขึ้น เพราะนั่นหมายถึงจังหวะสัญญาณนาฬิกาทางด้านการส่งและด้านรับจะมีโอกาศเบี่ยงเบนไปได้มากขึ้น เพราะฉะนั้นจึงมักใช้ส่งสัญญาณรหัสเป็นหน่วยสั้นๆ

 

ข้อมูลอ้างอิง : https://www.gotoknow.org

https://www.slideshare.net


Viewing all articles
Browse latest Browse all 307

Trending Articles